ปรับขนาดตัวอักษร

ปรับขนาดตัวอักษร

AA

ปรับสี

แสดงแบบตาราง

ปิด
เปิด
ปรับขนาดตัวอักษร
โลโก้ของมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย

มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์

FOUNDATION FOR THE BLIND IN THAILAND UNDER THE ROYAL PATRONAGE OF H.M. THE QUEEN

ผลิตภัณฑ์และบริการติดต่อมูลนิธิฯ
|

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล(Privacy Policy)

มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์

มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ต่อไปในนโยบายนี้เรียกว่า“มูลนิธิฯ” ตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลอื่น อันเกี่ยวกับบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับมูลนิธิฯ ให้ เชื่อมั่นได้ว่า มูลนิธิฯ มีความโปร่งใสและความรับผิดชอบในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของบุคคล ที่มีความสัมพันธ์กับมูลนิธิฯ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (“กฎหมายคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคล”) รวมถึงกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (“นโยบาย”) นี้จึงได้ ถูกจัดทำขึ้นเพื่อชี้แจงแก่บุคคลที่มีความสัมพันธ์กับมูลนิธิฯ ถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้หรือ เปิดเผย (รวมเรียกว่า “ประมวลผล”) ข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งดำเนินการโดย มูลนิธิฯ รวมถึงเจ้าหน้าที่และบุคคลที่ เกี่ยวข้อง ผู้ดำเนินการแทนหรือในนามของมูลนิธิฯ โดยมีเนื้อหาสาระดังต่อไปนี้

ขอบเขตการบังคับใช้นโยบาย

นโยบายนี้ใช้บังคับกับข้อมูลส่วนบุคคลของ บุคคลที่มีความสัมพันธ์กับมูลนิธิฯ ในปัจจุบันและที่อาจ มีในอนาคต ซึ่งถูกประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดย มูลนิธิฯ เจ้าหน้าที่ พนักงานตามสัญญา และรวมถึง คู่สัญญาหรือบุคคลภายนอกที่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทนหรือในนามของ มูลนิธิฯ (“ผู้ประมวลผล ข้อมูลส่วนบุคคล”) ภายใต้ผลิตภัณฑ์และกิจกรรมต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ ระบบ แอปพลิเคชัน เอกสาร หรือบริการ ในรูปแบบอื่นที่ควบคุมดูแลโดย มูลนิธิฯ (รวมเรียกว่า “กิจกรรม”)

บุคคลที่มีความสัมพันธ์กับมูลนิธิฯ ตามความในวรรคแรก รวมถึง

  1. ผู้บริจาค
  2. เจ้าหน้าที่หรือผู้ปฏิบัติงาน ลูกจ้าง นักเรียน
  3. อาสาสมัคร
  4. กรรมการ ที่ปรึกษา ผู้รับมอบอำนาจ ผู้แทน ตัวแทน หรือบุคคลอื่น ที่มีความสัมพันธ์กับมูลนิธิฯ
  5. ผู้เข้าชมหรือใช้งานเว็บไซต์ www.blind.or.th รวมทั้งระบบ แอปพลิเคชัน อุปกรณ์ หรือช่องทางการ สื่อสารอื่นซึ่งควบคุมดูแลโดย มูลนิธิฯ
  6. บุคคลอื่นที่มูลนิธิฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ผู้สมัครงาน ครอบครัวของเจ้าหน้าที่ ผู้ปกครอง นักเรียน ผู้ค้ าประกัน ผู้รับประโยชน์ในกรมธรรม์ประกันภัย เป็นต้น

นอกจากนโยบายฉบับนี้แล้ว มูลนิธิฯ อาจกำหนดให้มีคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (“ประกาศ”) สำหรับผลิตภัณฑ์หรือ กิจกรรม ของ มูลนิธิฯ เพื่อชี้แจงให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเป็น ผู้ใช้บริการได้ทราบถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกประมวลผล วัตถุประสงค์และเหตุผลอันชอบด้วยกฎหมายในการ ประมวลผล ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วน บุคคลพึงมีในผลิตภัณฑ์หรือ กิจกรรม นั้นเป็นการเฉพาะเจาะจง

ทั้งนี้ ในกรณีที่มีความขัดแย้งกันในสาระสำคัญระหว่างความในประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว และนโยบายนี้ ให้ถือตามความในประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของ กิจกรรม นั้น

คำนิยาม

มูลนิธิฯ หมายถึง มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์

ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดา ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่า ทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ

ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว ได้แก่ ข้อมูลเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกัน ตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด

การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง การดำเนินการใด ๆ ของมูลนิธิฯ กับข้อมูลส่วนบุคคล เช่น เก็บรวบรวม บันทึก สำเนา จัดระเบียบ เก็บรักษา ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ใช้ กู้คืน เปิดเผย ส่งต่อ เผยแพร่ โอน รวม ลบ ทำลาย เป็นต้น

เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่มูลนิธิฯ เก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย

ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของมูลนิธิฯ

แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลที่มูลนิธิฯ เก็บรวบรวม

ข้อมูลส่วนบุคคลที่ มูลนิธิฯ เก็บรวบรวมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง ในช่องทาง กิจกรรม ต่าง ๆ เช่น การรับบริจาค การสมัครงาน การลงนามในสัญญา หรือช่องทางติดต่ออื่นที่ควบคุมดูแลโดย มูลนิธิ ฯ เป็นต้น

มูลนิธิฯ เก็บรวบรวมจากการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าใช้งานเว็บไซต์ ผลิตภัณฑ์หรือ กิจกรรม อื่น ๆ ตามสัญญาหรือตามพันธกิจ เช่น การติดตามพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ ผลิตภัณฑ์หรือ กิจกรรม ของ มูลนิธิฯ ด้วยการใช้คุกกี้ (Cookies) หรือจากซอฟต์แวร์บนอุปกรณ์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น

ข้อมูลส่วนบุคคลที่ มูลนิธิฯ เก็บรวบรวมจากแหล่งอื่น เช่น การเชื่อมโยงบริการดิจิทัลของหน่วยงาน ของรัฐภาค การธนาคารและกับหน่วยงานภายนอก ที่ทางมูลนิธิฯ มีความสัมพันธ์ รวมถึงจากความจำเป็น เพื่อให้บริการตามสัญญาที่อาจมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลส่วนบุคคลกับหน่วยงานคู่สัญญาได้

กรณีที่มูลนิธิฯ ได้รับข้อมูลของบุคคลภายนอกจากบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับมูลนิธิฯ ผู้ให้ข้อมูลมี หน้าที่รับผิดชอบในการแจ้งรายละเอียดหรือขอความยินยอมจากบุคคลภายนอกนั้นๆ

ฐานกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

มูลนิธิฯ พิจารณากำหนดฐานกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลตามความเหมาะสมและ ตามบริบทของการดำเนินงาน

ฐานกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่ ใช้ ได้แก่

  • การดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือการใช้อำนาจรัฐที่ มูลนิธิฯ ได้รับ
  • การปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
  • ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
  • ความจำเป็นเพื่อการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
  • การปฏิบัติตามสัญญา
  • การจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์ วิจัยหรือสถิติที่สำคัญ
  • ความยินยอมของบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับมูลนิธิฯ

ในกรณีที่ มูลนิธิฯ มีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ของบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับ มูลนิธิฯ เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา การปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายหรือเพื่อความจำเป็นในการเข้าทำสัญญา หาก บุคคลที่มีความสัมพันธ์กับมูลนิธิฯปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลหรือ คัดค้านการดำเนินการประมวลผลตาม วัตถุประสงค์ของกิจกรรม อาจมีผลทำให้ มูลนิธิฯ ไม่สามารถดำเนินการตามที่บุคคลที่มีความสัมพันธ์กับ มูลนิธิฯ ร้องขอได้ทั้งหมดหรือบางส่วน

ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่ มูลนิธิฯ เก็บรวบรวม

มูลนิธิฯ อาจเก็บรวบรวมหรือได้มาซึ่งข้อมูลดังต่อไปนี้

  • ข้อมูลเฉพาะตัวบุคคล
  • ข้อมูลเกี่ยวกับคุณลักษณะของบุคคล
  • ข้อมูลสำหรับการติดต่อ
  • ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานและการศึกษา
  • ข้อมูลเกี่ยวกับกรมธรรม์ประกันภัย
  • ข้อมูลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางสังคม
  • ข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมของ มูลนิธิฯ
  • ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว

คุกกี้ (Cookies)

เมื่อท่านได้เข้าสู่เว็บไซต์ (www.blind.or.th) ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเข้าสู่เว็บไซต์จะถูกบันทึกไว้ใน รูปแบบของคุกกี้ โดยนโยบายคุกกี้นี้จะอธิบายถึงความหมาย การทำงาน วัตถุประสงค์ รวมถึงการลบและการ ปฏิเสธการเก็บคุกกี้ เพื่อความเป็นส่วนตัวของท่าน โดยการเข้าสู่เว็บไซต์นี้ถือว่าท่านได้อนุญาตให้มูลนิธิฯ ใช้ คุกกี้ตามนโยบายคุกกี้ที่มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

คุกกี้ที่จำเป็น (Strictly Necessary Cookies)

คุกกี้ที่จำเป็น คือ คุกกี้ที่ใช้สำหรับการทำงานที่จำเป็นของเว็บไซต์ และท่านไม่สามารถปิดการใช้งานใน ระหว่างการเข้าหน้าเว็บไซต์ของมูลนิธิฯ ได้ ซึ่งคุกกี้ประเภทนี้จะมีไว้เพื่อการจัดเก็บข้อมูลของท่านและ ตอบสนองต่อความต้องการที่ได้รับการร้องขอจากท่าน เช่น การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว การเข้าสู่ระบบ หรือการ กรอกแบบฟอร์ม เป็นต้น ทั้งนี้ท่านไม่สามารถปิดการใช้งานของคุกกี้ประเภทนี้ผ่านระบบของเว็บไซต์ของ มูลนิธิฯ ได้

คุกกี้ประสิทธิภาพ (Performance cookies)

คุกกี้ประสิทธิภาพ คือคุกกี้ที่ใช้บนเว็บไซต์ของมูลนิธิฯ เพื่อรับทราบและเก็บรวบรวมค่าสถิติและ พฤติกรรมการเยี่ยมชมเว็บไซต์ โดยให้ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีที่ผู้ใช้โต้ตอบกับเว็บไซต์ เช่น จดจำการตั้งค่าของท่าน จำนวนการเข้าชมเว็บไซต์ต่อหน้า เวลาที่ใช้บนหน้าเว็บไซต์ คุกกี้ประเภทนี้จะช่วยให้มูลนิธิฯ สามารถปรับปรุง เว็บไซต์ของมูลนิธิฯ ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งนี้ คุกกี้ประเภทนี้จะไม่ระบุตัวบุคคลของท่าน

คุกกี้กำหนดเป้าหมาย (Targeting Cookies)

คุกกี้กำหนดเป้าหมาย คือ คุกกี้ที่ใช้สำหรับการสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ หรือโฆษณาของมูลนิธิฯ โดย คุกกี้ประเภทนี้จะสร้างเป็นโปรไฟล์ เพี่อระบุว่าท่านสนใจหรือชอบในสิ่งใดเป็นพิเศษบนเว็บไซต์ของมูลนิธิฯ คุกกี้เหล่านี้ทำงานโดยการระบุแต่ละเบราวเซอร์และรหัสอ้างอิงของอุปกรณ์ท่าน ทั้งนี้ หากท่านไม่อนุญาติให้ คุกกี้ประเภทนี้ทำงาน ท่านจะไมได้รับข้อมูลการสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ หรือโฆษณาของมูลนิธิฯ บนเว็บไซต์

ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถและคนเสมือนไร้ความสามารถ

กรณีที่ มูลนิธิฯ ทราบว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมในการเก็บรวบรวม เป็นของ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเป็นผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ มูลนิธิฯ จะไม่ทำ การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจนกว่าจะได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำ การแทนผู้เยาว์ หรือผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ตามแต่กรณี ทั้งนี้ เป็นไปตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด

กรณีที่ มูลนิธิฯ ไม่ทราบมาก่อนว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถหรือคน เสมือนไร้ความสามารถ และมาพบในภายหลังว่า มูลนิธิฯ ได้เก็บรวบรวมข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ดังกล่าว โดยยังมิได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์ หรือผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ตามแต่กรณี ดังนี้ มูลนิธิฯ จะดำเนินการ ลบ ทำลาย ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นโดยเร็ว หากมูลนิธิฯ ไม่ มีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายประการอื่นนอกเหนือจากความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูล ดังกล่าว

วัตถุประสงค์และระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

มูลนิธิฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็น ตามวัตถุประสงค์อันชอบด้วย กฎหมาย และเก็บรักษาข้อมูล ภายในระยะเวลาที่เหมาะสมตามรายละเอียดที่ได้กำหนดไว้ในนโยบาย ประกาศ หรือตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ เมื่อพ้นระยะเวลาและข้อมูลส่วนบุคคลสิ้นความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ ดังกล่าวแล้ว มูลนิธิฯ จะทำการลบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถระบุตัวตน ได้ต่อไป ตามรูปแบบและมาตรฐานการลบทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่คณะกรรมการหรือกฎหมายจะได้ ประกาศกำหนดหรือตามมาตรฐานสากล อย่างไรก็ดี ในกรณีที่มีข้อพิพาทการใช้สิทธิหรือคดีความ อัน เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล มูลนิธิฯ ขอสงวนสิทธิในการเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปจนกว่าข้อพิพาทนั้นจะได้ มีคำสั่งหรือคำพิพากษาถึงที่สุด

ประเภทบุคคลที่มูลนิธิฯ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

มูลนิธิฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับมูลนิธิฯ ให้แก่บุคคลดังต่อไปนี้ ทั้งนี้ ประเภทของบุคคลผู้รับข้อมูลที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้เป็นเพียงกรอบการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของมูลนิธิฯ เป็นการทั่วไป เฉพาะบุคคลผู้รับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือ กิจกรรม ที่บุคคลที่มีความสัมพันธ์กับ มูลนิธิฯ ใช้งานด้วยเท่านั้นที่จะมีผลบังคับใช้

ประเภทบุคคลผู้รับข้อมูล ประกอบด้วย

  • หน่วยงานของรัฐหรือผู้มีอำนาจที่มูลนิธิฯ ต้องเปิดเผยข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินการ ตามกฎหมายหรือวัตถุประสงค์สำคัญอื่น
  • คณะกรรมการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการตามกฎหมายของมูลนิธิฯ
  • คู่สัญญาซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับสวัสดิการของผู้ปฏิบัติงานของมูลนิธิฯ
  • พันธมิตร
  • บุคคลอื่นที่เป็นผู้ให้บริการแทน หรือสนับสนุนการดำเนินการของ มูลนิธิฯ
  • ผู้รับข้อมูลประเภทอื่น
  • การเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ

การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ

ในบางกรณี มูลนิธิฯ อาจจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับ มูลนิธิฯ ไปยังต่างประเทศเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในการให้บริการแก่บุคคลที่มีความสัมพันธ์กับ มูลนิธิฯ เช่น เพื่อส่งข้อมูลส่วนบุคคลไปยังระบบคลาวด์ (Cloud) ที่มีแพลตฟอร์มหรือเครื่องแม่ข่าย (Server) อยู่ต่างประเทศ

มูลนิธิฯ จะดำเนินการเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ส่งให้มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่าง เพียงพอตามมาตรฐานสากล หรือดำเนินการตามเงื่อนไขในกฎหมายเพื่อให้สามารถส่งหรือโอนข้อมูลนั้นได้

การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

มูลนิธิฯ มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล โดยการจำกัดสิทธิ์การเข้าถึง ข้อมูลส่วนบุคคลให้สามารถเข้าถึงได้โดยเจ้าหน้าที่เฉพาะรายหรือบุคคลที่มีอำนาจหน้าที่หรือได้รับมอบหมาย ที่มีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลดังกล่าวตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้มีสิทธิ์ในข้อมูล ส่วนบุคคลตามกฎหมาย ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลยังไม่บรรลุนิติภาวะ ไว้แล้วเท่านั้น ซึ่งบุคคล ดังกล่าวจะต้องยึดมั่นและปฏิบัติตามมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของ มูลนิธิฯ อย่างเคร่งครัด ตลอดจนมีหน้าที่รักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลที่ตนเองรับรู้จากการปฏิบัติการตามอำนาจ หน้าที่ โดย มูลนิธิฯ มีมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลทั้งในเชิงองค์กรหรือเชิงเทคนิคที่ได้มาตรฐานสากล และเป็นไปตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด

นอกจากนี้ เมื่อมูลนิธิฯ มีการส่ง โอนหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลที่สาม ไม่ว่าเพื่อการ ให้บริการตามพันธกิจ ตามสัญญา หรือข้อตกลงในรูปแบบอื่น มูลนิธิฯ จะดำเนินการตามเงื่อนไขในกฎหมาย และกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลและการรักษาความลับที่เหมาะสมและเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อยืนยันว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่ มูลนิธิฯ เก็บรวบรวมจะมีความมั่นคงปลอดภัยอยู่เสมอ

การเชื่อมต่อเว็บไซต์ของมูลนิธิฯ หรือการเชื่อมต่อไปยังบริการภายนอก

มูลนิธิฯ อาจมีการเชื่อมต่อเว็บไซต์ของมูลนิธิฯ หรือการเชื่อมต่อไปยังบริการภายนอกของบุคคลที่ สาม เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้บริการ มูลนิธิฯ ขอแนะน าให้บุคคลที่มีความสัมพันธ์กับมูลนิธิฯ ศึกษา นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์นั้นๆ เพื่อประโยชน์ในการทำตามกิจกรรมของท่าน

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

มูลนิธิฯ ได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบ กำกับและให้คำแนะนำ ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการประสานงานและให้ความร่วมมือกับ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้สอดคล้องตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วน บุคคล พ.ศ. 2562

สิทธิของท่านตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ได้กำหนดสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้ ดังนี้

1. สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล บุคคลที่มีความสัมพันธ์กับมูลนิธิฯ มีสิทธิขอเข้าถึง รับ สำเนาและขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลที่ มูลนิธิฯ เก็บรวบรวมไว้ อย่างไรก็ตามมูลนิธิฯ มีสิทธิ ปฏิเสธคำขอของบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับมูลนิธิฯ ด้วยเหตุตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือกรณีที่การใช้ สิทธิของบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับมูลนิธิฯ จะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพ ของบุคคลอื่น

2. สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง สมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน หากบุคคลที่มี ความสัมพันธ์กับมูลนิธิฯ พบว่าข้อมูลส่วนบุคคลไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วนหรือไม่เป็นปัจจุบัน บุคคลที่มี ความสัมพันธ์กับมูลนิธิฯ มีสิทธิขอให้แก้ไขเพื่อให้มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความ เข้าใจผิดได้

3. สิทธิในการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล บุคคลที่มีความสัมพันธ์กับมูลนิธิฯ มีสิทธิขอให้ มูลนิธิ ฯ ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้ ต่อไป ทั้งนี้ การใช้สิทธิลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลนี้จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด

4. สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล บุคคลที่มีความสัมพันธ์กับมูลนิธิฯ มีสิทธิขอให้ ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ระหว่างการตรวจสอบ ให้แก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง หรือกรณีเจ้าของข้อมูล ส่วนบุคคลประสงค์ให้ มูลนิธิฯ เก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปเพื่อประกอบการใช้สิทธิตามกฎหมาย แม้ว่าข้อมูล นั้นหมดความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธิฯ แล้ว ทั้งนี้การใช้สิทธิจะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขตามที่ กฎหมายกำหนด

5. สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล บุคคลที่มีความสัมพันธ์กับมูลนิธิฯ มีสิทธิ คัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับมูลนิธิฯ เว้นแต่ กรณีที่ มูลนิธิฯ มีเหตุในการปฏิเสธคำขอโดยชอบด้วยกฎหมาย (เช่น มูลนิธิฯ สามารถแสดงให้เห็นว่าการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับมูลนิธิฯ มีเหตุอันชอบด้วยกฎหมาย ยิ่งกว่า หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะของ มูลนิธิฯ)

6. สิทธิในการขอถอนความยินยอม ในกรณีที่บุคคลที่มีความสัมพันธ์กับมูลนิธิฯ ได้ให้ความยินยอม แก่ มูลนิธิฯ ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (ไม่ว่าความยินยอมนั้นจะได้ให้ไว้ก่อนหรือ หลังพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มีผลใช้บังคับ) บุคคลที่มีความสัมพันธ์กับมูลนิธิฯ มี สิทธิถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับมูลนิธิฯ ถูกเก็บรักษาโดย มูลนิธิฯ เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธิโดยกฎหมายให้ มูลนิธิฯ จำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลต่อไปหรือ ยังคงมีสัญญาระหว่างบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับมูลนิธิฯ กับ มูลนิธิฯ ที่ให้ประโยชน์แก่บุคคลที่มี ความสัมพันธ์กับมูลนิธิฯ อยู่

7. สิทธิในการขอรับ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล บุคคลที่มีความสัมพันธ์กับมูลนิธิฯ มีสิทธิในการ ขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่มูลนิธิฯ จัดเก็บในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงอาจขอให้ มูลนิธิฯ ส่งหรือโอน ข้อมูลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น ทั้งนี้ การใช้สิทธินี้จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไข ตามที่กฎหมายกำหนด

โทษของการไม่ปฏิบัติตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

การไม่ปฏิบัติตามนโยบายอาจมีผลเป็นความผิดและถูกลงโทษทางวินัยตามกฎเกณฑ์ของ มูลนิธิฯ (สำหรับเจ้าหน้าที่หรือผู้ปฏิบัติงานของ มูลนิธิฯ) หรือตามข้อตกลงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (สำหรับผู้ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล) ทั้งนี้ ตามแต่กรณีและความสัมพันธ์ที่บุคคลที่มีความสัมพันธ์กับมูลนิธิฯ มีต่อ มูลนิธิฯ และอาจได้รับโทษตามที่กำหนดโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

การร้องเรียนต่อหน่วยงานผู้มีอำนาจก ากับดูแล

ในกรณีที่บุคคลที่มีความสัมพันธ์กับมูลนิธิฯ พบว่า มูลนิธิฯ มิได้ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล บุคคลที่มีความสัมพันธ์กับมูลนิธิฯ มีสิทธิร้องเรียนไปยังสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล ทั้งนี้ก่อนการร้องเรียนดังกล่าว มูลนิธิฯ ขอให้บุคคลที่มีความสัมพันธ์กับมูลนิธิฯ โปรดติดต่อ มายัง มูลนิธิฯ เพื่อให้ มูลนิธิฯ มีโอกาสได้รับทราบข้อเท็จจริงและได้ชี้แจงในประเด็นต่าง ๆ รวมถึงจัดการ แก้ไขข้อกังวลของบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับมูลนิธิฯ ก่อนในโอกาสแรก

การติดต่อสอบถามหรือใช้สิทธ

หากบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับมูลนิธิฯ มีข้อสงสัยข้อเสนอแนะหรือข้อกังวลเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของมูลนิธิฯ หรือเกี่ยวกับนโยบายนี้หรือต้องการใช้สิทธิตามกฎหมาย คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สามารถติดต่อสอบถามได้ที่

หน่วยงาน : มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์

สถานที่ติดต่อ : เลขที่ 420 ถนนราชวิถี แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400

ช่องทางการติดต่อ : [email protected]

โทรศัพท์ : 02-354-8365-68 (เวลาทำการ 08:30 – 16:30 น.)

รูปภาพโลโก้มูลนิธิ